Tak
resort Tak
จะสามขวบแล้วสำหรับความเป็น"บ้านไร่เชิญมา รีสอร์ท"
       หากคิดย้อนหลัง ไปเมื่อ สามปีที่ผ่านมา น่าจะเป็นช่วงที่เรา ทีมงาน"บ้านไร่เชิญมา" ใจจดใจจ่ออยู่กับอนาคตของสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่ ผู้คนรอบข้างต่างก็มีความคิดเห็นกันต่างๆนานา บ้างก็ทักท้วง บ้างก็เคลือบแคลงสงสัย บ้างก็ตั้งคำถามในเชิงสร้างสรรค์ แต่ทุกความคิดเห็นล้วน เป็นกำลังใจให้เราได้พยายามสร้างสรรค์ในสิ่งที่ดีที่สุดที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้วยสมอง ด้วยแรง รวมถึงหัวใจที่เรามี เพียรพยายามหาจุดลงตัวที่สุดในความเป็น "บ้านไร่เชิญมา"เพื่อมิให้เกิดการสูญเปล่า หรือเกิดผลเสียหายอื่นๆตามมา จนยากที่เราจะรับมือกับมันได้
       ที่ ณ ตรงจุดนี้ จุดที่เป็นพื้นที่ที่เราเรียกขานกันในปัจจุบันว่า "บ้านไร่เชิญมา รีสอร์ท" เคยเป็นที่ดินที่คุณตาคุณยายได้ใช้ประโยชน์ ในการทำสวนทำไร่ เลี้ยงปลาในยามว่างจากงานประจำ แล้วตกทอดต่อลูกหลานเพื่อให้ได้มีที่ดินเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ต่อ ตามแต่จะเห็นเป็นการสมควร ทีมงาน "บ้านไร่เชิญมา" หนึ่งในบรรดาลูกหลานของคุณตาคุณยาย ซึ่งได้รับการตกทอดที่ดินส่วนในสุด ติดกับชายทุ่งผืนนี้ เกิดประกายความคิดที่จะพัฒนาพื้นที่มาตั้งแต่ ต้นๆปี พ.ศ.2554 แต่ก็ยังไม่สามารถลงไม้ลงมือทำได้อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากติดขัดในเรื่องของเวลา และโอกาสที่จะสามารถเริ่มต้นลงมือทำได้อย่างเต็มที่
tak
tak
   "จะทำอะไรดีกับพื้นที่ตรงนี้??" แม้ในช่วงต้นๆก่อนการลงมือทำ เรายังมิสามารถตกผลึกความคิดหรือวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนได้ว่า พื้นที่ส่วนนี้ ควรจะถูกพัฒนาไปในแนวทางใด หรือพูดง่ายๆว่า ยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรกับมันดี มีหลากหลายความคิดพรั่งพรูออกมา โดยวิเคราะห์ดูจาก สภาพแวดล้อมในขณะนั้น สภาพเศรษฐกิจ ความสะดวกในการบริหารจัดการ ความเหมาะสมกับตัวเราเอง ฯลฯ ความคิดในช่วงต้นๆ ก็ออกมาในแนวที่ค่อนข้าง ยึดติดกับเรื่องของความง่าย ความสะดวกในการจัดการ แล้วก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นเมื่อมีเวลาในการศึกษาข้อมูล ศึกษาโอกาสในการแข่งขัน จนสรุปออกมาเป็น "บ้านไร่เชิญมา รีสอร์ท" ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน    
tak
tak
       "การถากถางและเปิดพื้นที่" พื้นที่บริเวณนี้ ถูกเว้นระยะเวลาในการใช้ประโยชน์มาเป็นเวลาค่อนข้างนาน เนื่องจากสภาพของสังคมที่เปลี่ยนไป ประกอบกับ รูปแบบการทำมาหาเลี้ยงชีพของบรรดาลูกหลานของคุณตาคุณยายที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย ทำให้หาโอกาสได้ยากที่จะเข้ามาใช้ประโยชน์ยังเช่นแต่ก่อน เมื่อปัจจัยต่างๆตามที่กล่าวมาเป็นเช่นนั้น จึงส่งผลให้พื้นที่แห่งนี้ ดูจะค่อนข้างรก พืชพันธุ์ไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมกระจายทั่วบริเวณ การเข้าถึง กระทำได้เพียง บริเวณขอบๆของพื้นที่ ดูแทบไม่ออกว่า พื้นที่บริเวณภายในมีขนาดกว้างยาวเป็นหลุมเป็นบ่อมากน้อยขนาดไหน นอกจากนั้น พื้นที่โดยรอบรวมถึงพื้นที่บางส่วนของเราเอง กลายเป็นแหล่งรองรับน้ำจากพื้นที่อื่นๆ สืบเนื่องมาจากการเจริญเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับ การขยายตัวของพื้นที่เขตเมือง มีการถมปรับพื้นที่เพื่อ ก่อสร้างบ้านเรือนแทบจะรายรอบ จนทำให้พื้นที่แห่งนี้ ซึ่งเดิมมีสภาพเป็นกึ่งๆทุ่งนาอยู่แล้ว ยิ่งมีระดับต่ำลงเมือเทียบกับพื้นที่อื่นๆ
       เราเริ่มลงมือเปิดพื้นที่เพื่อให้เห็นสภาพภายในที่แท้จริงประมาณ กลางๆปี พ.ศ.2554 ใช้เวลาในการดำเนินการไม่นานก็แล้วเสร็จ เนื่องจากพืชพันธุ์ไม้ ที่มีอยู่ภายใน ส่วนใหญ่ไม่ยากต่อการถากถาง เช่น สะเดา มะขาม มะขามเทศ ต้นตาล ปีบ ไผ่ มะพร้าวฯลฯ ซึ่งบางส่วน เรายังคงเก็บรักษาไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึง คุณตาคุณยาย และยังคงมีให้เห็นจนถึงปัจจุบัน
Tak
Tak
       "SLOW Life ค่อยๆทำค่อยๆคิด ไม่ต้องรีบ" เมื่อพื้นที่ถูกเปิดออกโดยใช้เวลาไม่นานนัก ทำให้เรามองเห็นสภาพพื้นที่ได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงมองเห็นงานที่ตามมาอีกโข ทั้งในเรื่องของการปรับเกรท การถมดิน การวางผัง การชี้จุดขอบเขตของพื้นที่ การสร้างแนวรั้ว ฯลฯ ซึ่งงานทั้งหมดเหล่านี้แหละ ยิ่งทำให้เราทีมงานฯ รู้สึกถึง ภาระที่ค่อนข้างหนัก แต่จำเป็นที่จะต้องสานต่อในสิ่งที่คิดไว้แต่ต้นให้แล้วเสร็จ แม้มันจะดูหนักเอาการอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความตั้งใจจริง ที่จะทำอะไรสักอย่างให้ สำเร็จ แรงผลักดันย่อมเกิดขึ้น คิดได้แต่เพียงว่า "ค่อยๆทำ ค่อยๆคิด ไม่ต้องรีบ" เดี๋ยวก็ดีเอง
Tak
       "มุมเปิดโล่ง ตรงใจเรา เขาพระเมิน" งานถมปรับพื้นที่ คืองานลำดับแรกๆที่เราลุยกันต่อ โดยใช้ผู้ประกอบการเจ้าเดียวกันกับงานเปิดพื้นที่ งานถมนี้ เราทำในลักษณะทะยอย กล่าวคือทำไปคิดไป วางผังก่อสร้างไปด้วยในใจ ทุกๆวันที่ได้มีโอกาสเข้าไปดูที่หน้างาน ทำให้เราเกิดไอเดียดีๆหรือแง่คิดดีๆหลายๆอย่าง ทั้งในเรื่องของรูปแบบตัวอาคาร การวางผังพื้นที่ การมองหาจุดขาย หรือแม้กระทั่ง แนวหลากของน้ำ เพราะช่วงที่เรากำลังทำงานถมอยู่นี้ จะคาบเกี่ยวอยู่ใน ห้วงฤดูฝนพอดิบพอดี ถือว่าได้ประโยชน์ แม้จะทำให้งานล่าช้าไปบ้าง แต่มันก็ทำให้เราไหวตัวทัน ในเรื่องของการถมปรับพื้นที่ เพื่อรองรับปัญหาของน้ำฝนในอนาคต
       ด้วยเหตุที่ว่า เราพยายามใส่ความปราณีตให้ถึงที่สุด ในเรื่องของการถมปรับพื้นที่ ทำให้เราต้องเข้าไปขลุกอยู่กับหน้างานยาวต่อเนื่อง ตั้งแต่เช้ายันเย็นของ ทุกๆวันที่มีการทำงาน ซึ่งโอกาสแบบนี้ถือว่าเป็นผลในด้านบวกต่อการตัดสินใจ ที่จะสรุปว่า เราควรจะทำอะไรกับพื้นที่ตรงนี้ดี เพราะมีอยู่วันหนึ่งของการทำงาน เช้าวันนั้นอากาศค่อนข้างดี เรายืนอยู่ ณ บริเวณริมชายขอบของพื้นที่โซนด้านทิศตะวันออก แล้วมองออกไปไกลๆ สิ่งที่สัมผัสได้ในชั่วขณะนั้น คือ ภาพของ"เขาพระเมิน" เนินเขาด้านทิศตะวันออก ที่ตั้งเด่นตะหง่านเป็นเสมือนฉากหลัง รองรับความเขียวสดของสภาพพื้นที่ คละเคล้ากับกลิ่นไอความชื้นของช่วง ฤดูฝน ยิ่งเมื่อได้สูดลมหายใจลึกๆแล้ว จะเข้าใจความหมายของคำว่า "อากาศบริสุทธิ์" ได้โดยไม่ต้องอธิบายความ ด้วยเหตุนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้เราตัดสินใจ สรุปลงเอยวัตถุประสงค์ ของสิ่งที่จะทำอยู่นี้ ว่า เราตัดสินใจที่จะทำ "รีสอร์ท"
 
 
Author :
 
TAK

พันเอก เอนก ทาปิน

+ โรงเรียนตากพิทยาคม จังหวัดตาก
+ วทบ.(สาขาวิศวกรรมเครื่องกล) รร.จปร.
+ M.B.A.(Administration) มหาวิทยาลัยเกษตร์ศาสตร์

 

       
TAK
TAK
TAK
TAK